และแล้วเราก็มาถึงจุดที่เราหมด passion ในการทำสิ่งต่าง ๆ หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า burnout จนได้
ช่วงนี้ทุกวันหลังจากตื่นนอน สิ่งแรกที่เราอยากจะทำก้คือกลับไปนอนต่อโดยไม่ต้องสนโลก อยากจะใช้ชีวิตอยู่บนที่นอนทั้งวันโดยไม่ต้องทำอะไร เพราะเราไม่มีกะจิตกะใจจะลงมือทำอะไรเลย
เอาจริง ๆ เรื่องการหมด passion สำหรับเราแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหม่เลย จะเรียกว่าเป็นอาการที่จะวนเวียนมาเป็น cycle ก็ได้ พอถึงช่วงเวลานี้อาการก็จะออกทันที ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คือ productive เราจะต่ำลงมากอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับความสามารถในการควบคุมอารมณ์และการจัดการความรู้สึกจะแย่ลง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นวิธีแก้อาการนี้สำหรับเรานั้นง่ายมาก นั่นคือการที่เราต้องออกไปหาแรงบันทาลใจใหม่ ๆ หรือไม่ก็ต้องออกไปอยู่ในจุดที่สามารถฮีลลิ่งเราได้ ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะแก้ด้วยการไปปลดปล่อยตัวเองที่ญี่ปุ่นปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง มันเหมือนเราได้ไปรีเซ็ทอารมณ์กับความรู้สึกตัวเอง
ทว่าเนื่องจากสถานการ COVID-19 ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ทำให้เราไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว บอกตามตรงว่ามันค่อนข้างส่งผลกระทบพอสมควรในเรื่องการจัดการด้านอารมณ์ของเรา ถึงขนาดที่เรารู้สึกว่ามันส่งผลกระทบต่องาน ทั้งในเรื่องของ Task Management เรื่อง Team Management ที่เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถ handle ได้เต็ม 100% เหมือนในช่วงเวลาปกติ
แต่ก็น่าแปลกใจที่คนรอบข้างเราไม่ได้สัมผัสถึงความผิดปกติอะไรเลย ทุกคนยังเข้าใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สุดท้ายเราก็ต้องหาวิธีในการผ่อนคลายตัวเองในรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้องคาราโอเกะ การนัดกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อน หรือแม้กระทั่งหางานอดิเรกอื่น ๆ เสริมเข้ามา
และผลที่ตามมาก็คือเรามีสิ่งที่ต้องทำในแต่ละสัปดาห์เยอะมาก
เยอะแบบเยอะจริง ๆ (ฮา)
ซึ่งมันก็สามารถช่วยคลายเครียดให้เราผ่อนคล้ายได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นใหม่อีกรอบสลับวนเวียนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เป็นวัฏจักร
อา… อยากไปญี่ปุ่น เร็ว ๆ จัง
หวังว่าเขาจะเปิดพิจารณาวีซ่าสำหรับ New Entry เร็ว ๆ นี้นะ