ไอดอล

โอชิน่ะไม่ใช่สิ่งที่ต้องตามหาไม่ใช่เหรอ

ในบล็อกนี้เราขอวกกลับเข้ามาสู่เรื่องของไอดอลกันบ้าง

เรื่องของเรื่องเกิดจากเมื่อคืนเราได้คุยกับคุณ น.และผองเพื่อนที่ชื่นชอบไอดอลด้วยกันแล้วจู่ๆคุณ น. ก็หยิบยกคำพูดนี้ขึ้นมาระหว่างบทสนทนา ซึ่งเรารู้สึกว่า เห้ย ! มันใช่อะ

ขอเกรินก่อนคือคำพูดนี้มาจาก IG story ของอดีตไอดอลคนหนึ่งที่ตอนนี้ผันตัวเองไปเป็น talent แบบเต็มตัวแล้ว

ตอนนั้นน้องได้มีเปิดช่วงถามตอบใน IG story ซึ่งแฟนคลับสามารถเข้าไปทิ้งคำถามเอาไว้ได้แล้วตัวเด็กจะเลือกหยิบลางคำถามขึ้นมาตอบผ่าน story (เพราะถ้าให้ตอบทุกคำถามต่อให้ใช้เวลา 1 วันเต็ม ๆ ก็อาจจะไม่เพียงพอ)

และในบรรดาคำถามเหล่านั้นก็มีคำถามหนึ่งที่ถามว่า

ยังเลือกโอชิในวง〇〇 (ชื่อวงเก่าของเมมเบอร์คนนั้น) ไม่ได้เลย

สำหรับใครหลาย ๆ คน คำถามนี้อาจจะเป็น 1 ในคำถามปกติ ซึ่งเราเองก็เป็นคนที่เคยคิดว่ามันเป็นคำถามปกติธรรมดาทั่วไป แต่น้องก็ได้หยิบคำถามนี้ขึ้นมาตอบ และคำตอบของเด็กคนนี้ก็ทำให้เราฉุกคิดอะไรหลาย ๆ อย่าง

“โอชิน่ะ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องตามหาไม่ใช่เหรอ การที่เราจะโอชิใครสักคน มันเริ่มมาจากการที่เรารู้สึกตัวว่าเราเริ่มรักเด็กคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ต่างหาก” นี่คือสิ่งที่เด็กคนนั้นตอบกลับคำถามข้างต้น

หลังจากที่เราฟังคุณ น. เล่าเรื่องนี้เราก็ฮุกคิดอะไรได้หลายอย่าง

Photo by Puguh Indrasetiawan copyrights under flickr rights

ปัจจุบันในสังคมคนที่ชื่นชอบผลงานเพลงและวงไอดอล มีคนที่ประกาศตัวเองว่าโอชิคนนั้นคนนี้กันมากมาย หลายครั้งที่เรารู้สึกว่าการที่เขาเลือกว่าจะโอชิใครสักคนทำไมมันถึงดูง่ายดายขนาดนั้น และบางคนเองก็โอชิเฮนได้ง่ายเช่นกัน บรรดาแฟนเพจต่าง ๆ บน facebook เองก็ถูกตั้งขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่มีการเปิดตัวแม้ว่าจะยังไม่เดบิวก็ตาม จนเราเริ่มสงสัยว่าคนเหล่านั้นเขาชื่นชอบในตัวเด็กคนนั้นจริง ๆ หรือเพียงแค่ประกาศตัวว่าชอบเพื่อตามกระแสไปเพียงเท่านั้น

ในบล็อกที่สองของเว็บเราเคยหยิบความหมายของคำว่าโอชิมาเขียนเป็นเกร็ดเล็ก ๆ ในบล็อกแล้ว ตอนนี้เราจะขอหยิบมันขึ้นมาเขียนอีกครั้งก็แล้วกัน ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีคำนิยามของคำว่าโอชิเมมแตกต่างกันไป แต่สำหรับเรา

โอชิเมม(推しメン) เป็นการประกอบคำโดย 推 มาจากคำว่า 推薦(suisen – การแนะนำ) และ メン จาก メンバー(member) คำว่าโอชิเมมสำหรับเราเลยหมายถึงเมมเบอร์ที่เรารู้สึกผูกพันรู้สึกอยากสนับสนุนหรืออยากบอกต่อแนะนำให้กับคนอื่น

แต่ก็นั่นแหละต่างกรรมต่างวาระ มากคนก็มากความคิด นิยามที่เรายกมาข้างต้นอาจจะเป็นนิยามของคำว่าโอชิเมมในแบบของเรา แต่สำหรับคนอื่นอาจเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง

ทั้งนี้ทั้งนั้นเราค่อนข้างประทับใตกับคำตอบที่เด็กคนนั้นตอบแฟน ๆ ของตัวเองมาก เพราะหากแฟนคลับไม่ได้ชอบไม่ได้รู้สึกอยากสนับสนุนโอชิตัวเองแบบจริง ๆ เพียงแต่ประกาศว่าตัวเองเป็นโอชิเพราะตามกระแสคนหมู่มากหรือเพียงเพราะแค่อารมณ์ชั่ววูบ สุดท้ายแล้วคน ๆ นั้นก็จะตามเด็กที่คุณเรียกว่า ‘โอชิ’ อย่างไม่มีความสุข หรือไม่ได้รู้สึกสนุกกับการตามเด็กคนนั้นจริง ๆ

ตอนนี้ในไทยเองก็มีวงไอดอลเกิดขึ้นมามากมาย ทั้งที่มีออกเพลงและทำกิจกรรมไอดอลแบบจริง ๆ จัง ๆ และที่เกิดขึ้นมาเพื่อขายเชกิ ขายรูปสุ่มแล้วยุบวงทิ้ง มีมากมายหลากหลายรูปแบบ แถมจากที่เราสังเกตดูมาตลอดสามสี่ปีนี้ เรารู้สึกว่าวัฒนธรรมการตามไอดอลที่ไทยและที่ญี่ปุ่นยังค่อนข้างแตกต่างกันอยู่บ้างแต่จะให้ชี้ชัด ๆ ว่าต่างกันยังไงเราก็คงบอกไม่ได้เหมือนกัน อาจเป็นเพราะเราแค่ตามดูไอดอลไทยอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้ลงไปตามแบบจริง ๆ จัง ๆ เหมือนฝั่งญี่ปุ่นเราเลยไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนัก แต่จากสายตาของคนวงนอกมันให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างบอกไม่ถูก

เราค่อนข้างมีลางสังหรณ์ว่าหากบล็อกนี้ถูกเผยแพร่ออกไปอาจจะทำให้บางคนรู็สึกหงุดหงิด ขัดใจ จนเอาไปนินทาลับหลังหรืออาจจะมีทัวร์มาลงที่เราก็ได้ แต่ใครสนกันล่ะ? ที่หน้าแรกของเว็บก็ประกาศชัดไว้แล้วว่าบล็อกนี้เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่เราสามารถแสดงความคิดที่เป็นตัวของเราเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งเป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นเราก็จะแสดงความรู้สึกและความเห็นของเราออกมาแบบตรง ๆ เช่นกัน

อีกทั้งเราก็ไม่เคยเปิดให้คนอื่นมาแสดงความคิดเห็นในบล็อกเราได้ เพราะฉะนั้นเราไม่กลัวหรอก (ฮา)