นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนครึ่งแล้วตั้งแต่ปีใหม่มาที่เราและใครหลาย ๆ คนต้องหวนกลับมา work from home เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน
เอาจริง ๆ เราเชื่อว่าบางคนก็คงเริ่ม work from home กันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (แบบเรา) และบางคนก็เพิ่งจะมาเริ่มเอาตอนปีใหม่นี้
ส่วนตัวเราคิดว่าวิถีชีวิตการทำงานแบบ work from home ใน season ที่ 2 นี้ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งก่อน อาจเป็นเพราะว่าเราเริ่มชินกับการทำงานที่บ้านหรือเริ่มปรับตัวได้แล้วก็ไม่ทราบ เรารู้สึกว่าเราสามารถ manage task ในแต่ละวันได้ค่อนข้างดีรวมถึง Productivity ที่เพิ่มมากขึ้นจากตอนที่ work from home ในครั้งก่อน ๆ
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเราสามารถจัดสรรเวลาได้ดีขึ้นและอีกส่วนคงมาจากการที่เรามีเป้าหมายระยะสั้น (ในอีก 1 – 3 เดือน) และระยะกลาง (6เดือน – 2 ปี) ค่อนข้างชัดทำให้รู้ว่าควรเดินอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เราวางเอาไว้
มามองย้อนดูเราก็ค่อนข้างที่จะหุนหันและชอบตัดสินใจอะไรแบบเฉียบพลันเป็นประจำ ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวยิ่งตั้งแต่เราย้ายมาทำงานที่นี่เราได้มีโอกาสในการตัดสินใจอะไรสำคัญ ๆ ที่มีผลกระทบต่อคนในวงกว้างค่อนข้างบ่อย ทำให้เรายิ่งมองเห็นตัวเองชัดขึ้น
นอกจากจะชอบตัดสินใจอะไรแบบเฉียบพลันแล้วเรายังชอบลงมือทำทันทีหลังจากตัดสินใจด้วย (ฮา)
เอาล่ะนอกเรื่องไปไกลละ วกกลับมาที่วิถีชีวิตในช่วง work from home ในครั้งนี้กันบ้าง
ช่วงที่ work from home นี่คือเราใช้ชีวิตแบบเหลวแหลกมาก (ฮา) คือแบบตื่นมาตอน 8.50 ล้างหน้าแปรงฟันแล้วเริ่มเช็คเมลตอน 9 โมงได้พอดิบพอดี หลังจากนั้นก็ทำงานไปกินข้าวเช้าไป จนถึงเที่ยงก็พักกินข้าวแล้วกลับมานั่งหน้าคอมทำงานต่อจนถึง standup meeting ตอน 5 โมงเย็นเป็นอันเลิกงาน แต่เราก็ยังคงนั่งไถทวิตขึ้นอืดอยู่หน้าคอมต่อ (ฮา)
ชีวิตในแต่ละวันก็วนเวียนอยู่เท่านี้ วันไหนต้องเข้าออฟฟิศก็ดีหน่อยที่ได้มีลุกออกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง ไม่งั้นก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ วัน ๆ แทบไม่ค่อยได้ขยับตัวเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นลืมเรื่องการออกกำลังกายไปได้เลย
ตอนนี้สถานการณ์ COVID-19 เองก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นมากแล้ว คาดว่าอีกไม่นานก็คงจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้
แต่ทว่าเราเริ่มจะเสพติดวิถีชีวิตแบบนี้แล้วสิ
การไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อไปเบียดเสียดกับคนอื่นบนรถไฟฟ้าช่างเป็นลาภอันประเสริฐเสียจริง