หัวข้อนี้จริง ๆ เราตั้งใจว่าจะเขียนมาซักพักแล้วแต่ก็ผลัดมาเรื่อยเช่นกัน (ฮา)
เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา (ย้อนเวลากลับไปค่อนข้างไกล) ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว Project LAST IDOL Thailand ที่จัดขึ้นที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน (โรงภาพยนต์ 13)
ก็เลยอยากจะถือโอกาสมาเล่าสิ่งที่เราไปเจอมาให้ฟังว่าในงานแถลงข่าววันนั้นมันมีอะไรบ้าง
จริง ๆ เรื่องนี้อาจจะต้องเริ่มเกริ่นกันยาวหน่อย
เห็นทีควรจะต้องมาปูพื้นกันคร่าว ๆ ก่อนว่า Last Idol คืออะไร
Last Idol คือรายการเพลงแบบ Survival ที่เริ่มจากการคัดเลือกตัวแทนมา 7 คนเป็นสมาชิกแรกเริ่มของรายการ โดยจะถูกเรียกว่า ‘สมาชิกชั่วคราว’
จากนั้นในแต่ละสัปดาห์จะมีผู้ท้าชิงมาร่วมรายการ
โดยผู้ท้าชิงแข่งชิงจะต้องเลือก 1 ในสมาชิกชั่วคราวโดยมีตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวของรายการเป็นเดิมพัน ผู้ที่ชนะจะเข้ามายืนในตำแหน่งสมาชิกชั่วคราวในขณะที่ผู้แพ้จะต้องออกจากรายการไปโดยที่ไม่มีโอกาสแก้ตัว
ตัดภาพมาที่งานแถลงข่าว Project LAST IDOL Thailand ที่ผมไปมา
โดยส่วนตัวมองว่าผู้จัดงานค่อนข้างเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับรายการ ซุ้มโปรโมทยูนิตย่อยต่างๆ โดยมีจอ LCD ที่เปิดฉาย MV ของแต่ละยูนิตและข้อความเล่าถึงความเป็นมาของแต่ละยูนิต ถึือว่าเป็นการเก็บรายละเอียดได้น่าประทับใจและเป็นการแสดงถึงการเตรียมตัวทำการบ้านของทีมงาน
นอกจากนี้ยังมีการการนำชุดยูนิตที่ใช้แสดงจริงในเพลง Bandwagon จากญี่ปุ่นมาจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมอีกด้วย
ในส่วนของทางเข้าโรงหนังเองก็มีการจัดวางแบนเนอร์รายการ ซึ่งได้รับความสนใจจากบรรดานักข่าวและช่างภาพอย่างเนืองแน่น ผิดกับโซนนิทรรศการที่เหล่านักข่าวผู้ได้รับเชิญมาทำข่าวในงานเปิดตัวครั้งนี้มองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง
คัดภาพมาที่ห้องแถลงข่าวตรงเวทีด้านล่างที่แต่เดิมเอาไว้ฉายหนังก็ได้มีการตกแต่งโดยมีตัวอักษร Last Idol วางประดับไว้ ตรงกลางเองก็เป็นเก้าอี้เพื่อสำหรับ section พูดคุย
ซึ่งเริ่มต้นด้วยการเสวนา Idol 101 จากทีมเสือร้องไห้ ที่ยังคงท็อปฟอร์ม (ในหลาย ๆ ความหมาย) อีกเช่นเคย
ถัดจากงานเสวนา Idol 101 ก็เป็น Section ที่เล่าถึงที่มาที่ไปของรายการ Last Idol และความร่วมมือระหว่างผู้ถือลิขสิทธิ์รายการในไทยกับอากิพีผู้ให้กำเนิดรายการ Last Idol ที่ญี่ปุ่น
หลังจากนั้นจะเป็นการแสดงเพลง Bandwagon โดยมีเหล่าเมมเบอร์จากวงไอดอลหลากหลายวงในไทยเข้าร่วม performance ในครั้งนี้ รวมถึงการอธิบายกฏการแข่งขังในรายการโดยผู้ที่ทำหน้าที่เป็น MC ในงานนี้คือ ม่านมุข และ พิม จาก Sweat16 และปิดท้ายด้วยการถ่ายภาพหมู่ร่วมกันเป็นอันสิ้นสุดงานแถลงข่าวในวันนี้
ส่วนตัวขอชื่นชมทีมผู้จัดงานรวมถึงทีมงาน Last Idol Thailand ที่มีการทำการบ้านกันมาพอสมควรแต่สำหรับทัศนคติเกี่ยวกับไอดอล รวมถึงความเข้าใจในวัฒนธรรมไอดอลในไทยของ Influencer หลายท่านยังค่อนข้างขัดกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่พอสมควร
ซึ่งเราเองก็ไม่กล้าไปเครมว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูกเพราะเราเองก็มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้แค่เพียงตื้นเขินมาก แต่เราเชื่อว่ายังไงก็ไม่ใช่สิ่งที่เขากำลังเข้าใจกันอยู่อย่างแน่นอน สังเกตได้จากสิ่งที่อากิพีได้พูดในวิดีโอที่เปิดในงานแถลงข่าวกับสิ่งที่ Influencer หรือทีมงานบางท่านพูดภายในงาน ยังคงไม่เป้นไปในทิศทางเดียวกันเท่าใดนัก