สวัสดีครับทุกคน Blog นี้ผมตั้งใจว่าจะเขียนตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่ญี่ปุ่น ตามที่เราเคยสัญญาไว้ว่าจะมาลงรายละเอียดทีหลัง หลังจากที่ได้ไปศาลเจ้าอิมาโดะที่โตเกียวมา
ทำไมต้องเป็นศาลเจ้าอิมาโดะ?
เรามาเริ่มกันจากทำไมต้องเป็นศาลเจ้าอิมาโดะกันก่อนดีกว่า ถ้าจะให้อธิบายแบบสรุปโดยย่อสั้น ๆ ศาลเจ้าอิมาโดะเป็นศาลเจ้าที่สถิตของเทพอิซานางิและเทพอิซานามิ สองมหาเทพที่ถือเป็นต้นกำเนิดของบรรดาเทพทั้งปวงตามเทพปกรนัมญี่ปุ่น และถือเป็นเทพผู้ที่สร้างประเทศญี่ปุ่นด้วย
ด้วยเหตุนี้ศาลอิมาโดะจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าศาลเจ้าสามีภรรยา สืบเนื่องมาจากเทพอิซานางิและเทพอิซานามิที่เป็นผุ้สร้างประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นสามีภรรยากันนั่นเอง และแน่นอนว่าเกริ่นกันมาขนาดนี้แล้วการขอพรที่เป็นจุดเด่นและตัวชูโรงของศาลเจ้าอิมาโดะก็คือเรื่องการขอพรในด้านความรักนั่นเอง
ไกจินก็สามารถขอได้มั้ย?
ทีนี้คำถามที่น่าสนใจต่อไปคือ แล้วบรรดาไกจิน (เป็นการย่อคำมาจากคำว่า 外国人 แปลว่าชาวต่างชาติ หากผู้พูดเป็นชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นคำเรียกที่แสดงความดูถูกเหยียดหยามชาวต่างชาติที่ถูกกล่าวถึง) อย่างพวกเราล่ะ? สามารถขอได้หรือเปล่า คำตอบคือ ‘น่าจะได้’ ถ้าถามว่าทำไมใช้คำว่า ‘น่าจะ’ ไม่ใช่ ‘ได้’ หรือ ‘ไม่ได้’ นั่นก็เพราะผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่จากที่เห็นตามป้ายเอมะ (ป้ายที่ไว้เขียนคำอธิฐานตามศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่น) ก็ดูเหมือนว่าจะมีชาวต่างชาติหลายคู่ที่มาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้แล้วสมหวัง แน่นอนว่าผมเองก็แอบเห็นป้ายเอมะของคนไทยที่มาขอพรและสมหวังเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดเหมือนเจ้าตัวจะเขียนไว้ว่า
หลังจากที่มาขอพรที่ศาลเจ้าแล้วสมหวัง ครั้งนี้เลยพาแฟนมาด้วยกันค่ะ
กล่าวตามตรง หลังจากที่ได้อ่านแล้วผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งนี้เรียกว่าการขอพรหรือการอวดแฟนต่อหน้าเทพกันแน่ หรือคิดว่าเขียนป้ายเอมะด้วยภาษาไทยแล้วเทพจะอ่านไม่ออกก็ไม่อาจทราบได้
คุณหมูน้อยได้ลองขอดูบ้างมั้ย?
ขอครับ แต่จะว่ายังไงดีล่ะ เรื่องขอพรด้านความรักนี่ผมค่อนข้างเซียนพอตัวนะ เพราะผมเดินสายแสวงบุญขอพรทั่วประเทศมาแล้ว วัดไหน ศาลเจ้าไหน ใครว่าเด่นว่าดังผมไปมาแล้วหมดและทุกศาลเจ้าก็ให้คำตอบไปในทิศทางเดียวกันตลอดเรียกได้ว่าผมเคยคิดที่จะวางมวยกับเทพชินโตของญี่ปุ่นเหมือนกัน ว่าสรุปจะเอายังไง ให้กำลังใจกันไม่เป็นเลยใช่มั้ยไอ้เทพเฮงซวยพวกนี้ ถึงแม้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในญี่ปุ่นผมจะเคยเดินสายขอพรถามความเห็นจากเทพแค่ไม่กี่ครั้งก็เถอะ (ทุกครั้งที่ขอพรผมจะเอ่ยชื่อบอกกับเทพไปเลยว่าอยากจะคบกับคนนี้ ๆ ชื่อนี้ ๆ) แต่เหมือนว่าครั้งนี้จะได้คำตอบที่ต่างออกไป
เอาล่ะ สำหรับรายละเอียดเรื่องราวเกี่ยวกับศาลเจ้าอิมาโดะผมคงพักเอาไว้เท่านี้ก่อนละกัน ถ้าใครอยากรู้พิกัด ก็ลองค้นหาจากอากู๋ดูได้ หรือไม่ก็กดที่นี่ เพื่อพาไปยัง google map ก็ได้เหมือนกันครับ สำหรับวันนี้ผมคงขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ใน Blog หน้าครับ