ในที่สุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มหาลัยก็ส่งเมลมา confirm เรื่อง Scholarship กับเรา แล้ว !!!
คือตอนที่มหาลัยตอบรับเราเข้าเรียนตอนนั้นเขาก็มีบอกว่าจะให้ทุนส่วนลดค่าเล่าเรียนกับเราแหละ แต่ยังไม่ confirm ว่าจะได้เท่าไหร่ ซึ่งเมลในตอนนั้นก็มี remark เล็ก ๆ ไว้ว่าขั้นต่ำคือได้ส่วนลดค่าเล่าเรียน 30% และเราก็ได้ตามนั้นจริง ๆ
ต้องบอกก่อนว่าวิธีจัดลำดับทุนตามที่มหาลัยแจ้งมาคือเขาจะเอาคะแนน GMAT กับคะแนนภาษามา ranking แล้วค่อยจัดสรรทุนให้แต่ละคน ซึ่งก็มีทั้งทุนส่วนลดค่าเล่าเรียน 100% 50% และ 30% ตามลำดับ โดยทุนที่เราได้คือทุนส่วนลด 30% นั่นก็เพราะเราไม่ได้ส่งคะแนน GMAT ไปแหละ (เขาให้ทุนก็บุญแล้ว) ทั้ง ๆ ที่ตอนสัมภาษณ์ก็คือไม่มีความมั่นใจว่าจะสอบติดด้วยซ้ำ (ฮา)
ทีนี้คำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยต่อก็คือ ‘ไม่ส่งคะแนน GMAT ก็ได้เหรอ ?’
เอาจริง ๆ แล้วถ้าคณะ MBA เกือบทั้งหมดทุกที่ในโลกมักจะ require คะแนน GMAT หรือ GRE กันทั้งนั้น แต่บางที่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นต่าง ๆ หากเราเข้าเงื่อนไขของมหาลัย และก็ใช่แล้ว ที่โดชิฉะเองก็มีข้อยกเว้นเอาไว้อยู่เหมือนกันนั่นคือถ้าผู้สมัครคนไหนที่มีประสพการณ์ทำงานเกิน 3 ปีก็สามารถงดเว้นไม่ต้องส่งคะแนน GMAT หรือ GRE ได้ เราเลยใช้ช่องนี้ในการเว้นการส่งคะแนน (ก็คือเตรียมตัวไปสอบไม่ทันแหละเลยไม่มีคะแนนส่ง)
สารภาพว่าตอนแรกที่มหาลัยยังไม่ประกาศทุน เราก็แอบหวังว่ามันจะมีโอกาสขยับไปถึงทุน 50% ไหมนะ แต่พอมาคิดอีกทีคะแนน GMAT ก็ไม่ส่งแล้วจะเอาอะไรไปขยับ (ฮา) สุดท้ายก็เลยปลงว่าคงได้แค่ 30% แหละ อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องจ่ายเต็มจำนวน
ส่วนหลังจากนี้ก็คงต้องขยันฝึกภาษาให้ดีมากขึ้น จะได้ไปหางานพิเศษทำตอนอยู่ญี่ปุ่นได้ โดยเฉพาะพวกไวยกรณ์ยาก ๆ กับคันจิที่เราจำไม่ค่อยได้ ถึงจำได้ก็เป็นอารมณ์แบบถ้าเห็นก็อ่านได้แต่ถ้าให้เขียนคือเขียนไม่ได้เลย (ร้องไห้)
คราวนี้คงมีเท่านี้ เป็น Blog สั้น ๆ ที่แวะมาเขียนอัพเดทกัน
จริง ๆ คือตั้งใจจะเขียนตั้งแต่เมื่อวันพุธแล้วแหละ แต่ช่วงนี้คือยุ่งจนหาเวลามาเขียน Blog ไม่ค่อยได้เลย อยากจะร้องไห้