ไดอารี่

สัมภาษณ์เรียนต่อป.โทครั้งแรก

วันนี้เป็นวันที่ทางมหาลัยนัดเราสัมภาณ์เรียนต่อซึ่งนี่เป็นการสัมภาษณ์เรียนต่อ ป.โทครั้งแรกของเราทั้งยังเป็นการสัมภาษณ์ผ่านทางออนไลน์ด้วย

เลยอยากจะบันทึกความรู้สึกหลังจากที่สอบสัมภาษณ์เสร็จเอาไว้

บอกตรง ๆ เลยว่าตอนนั้นประหม่ามาก

เราคิดว่าเราเตรียมตัวมาพร้อมมาก แต่ยิ่งใกล้วันสัมภาษณ์เท่าไหร่ยิ่งรู้เลยว่าเราขาดความพร้อมอีกเยอะ

อย่างเรื่องของ Study area ที่เราเขียนไปจากการดูคอร์สเรียนของมหาลัยโดยที่ลืมดูไปว่าเค้ามีจัดกลุ่ม Focus area อะไรเอาไว้บ้างทำให้สิ่งที่เราเขียนไปทั้งหมดไม่ตอบโจทย์ Focus area ของมหาลัยเลยแม้แต่น้อย

แม้กระทั่ง Research Topic เองก็เป็นจุดที่เราพลาดไปเหมือนกัน เนื่องจากตอนส่งเอกสารการสมัคร ทางมหาลัยไม่ได้ให้ส่ง Research Plan ไปพร้อมกับเอกสารการสมัคร (จริง ๆคือใน Application Guide ไม่เคยพูดถึง Research Plan หรือ Research Topicเลยด้วยซ้ำ) เราเลยละเลยในจุดนี้ไป ตอนที่ถูกถามเรื่อง Theme ของ Master Thesis ระหว่างสัมภาษณ์ก็ทำเอาเราไปต่อไม่ถูกเหมือนกัน ได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แถไปเรื่อยจนสีข้างถลอก

เกรดตอนช่วงป.ตรีเองก็เป็นอีกจุดที่ถูกยกมาพูดเพราะตอนสมัยป.ตรีเราไม่ค่อยขยันเท่าที่ควรสุดท้ายเกรดก็เลยออกมาค่อนข้างย่ำแย่ (ร้องไห้) แต่ก็นั่นแหละพอมารู้ตัวอีกทีมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เลยทำได้แค่พยายามพยุงไว้ไม่ได้มันย่ำแย่ไปมากกว่านั้น แล้วดึงเกรดเฉลี่ยโดยรวมให้มันมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ซึ่งพอสัมภาษณ์จบเราก็แทบจะเดาผลได้ในทันทีเลยว่าคงไม่ผ่านแน่ ๆ ถึงแม้ Profressor จะบอกว่าให้รอฟังผลในอีก 2-3 สัปดาห์ แต่สำหรับเรา เราคิดว่าต่อให้รอไปอีก 2-3 สัปดาห์ก็คงได้ผลลัพท์ที่ไม่ต่างกันมากนัก

บอกตามตรงว่าค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะเราค่อนข้างเตรียมความพร้อมไปเยอะมากทั้งในเรื่องการเรียบเรียงคำพูดใน Essay แต่ละข้อที่เขียนลงไป แต่สุดท้ายก็เหมือนกับกลายเป็นว่าเราตกม้าตายตั้งแต่แรกเริ่มโดยที่ไม่รู้ตัวเสียอีก

สำหรับเราประสบการณ์ในครั้งนี้ก็ถือเป็น 1 ในประสบการณ์ราคาแพงที่ค่อนข้างเจ็บปวด แต่จะมานั่งท้อ นั่งเสียใจไปตลอดก็คงจะไม่ได้ หลังจากนี้เราคงมองหามหาลัยอื่นและเริ่มเตรียมตัวตั้งเป้าหมายใหม่ ยังไงก็คงยังไม่ยอมแพ้เรื่องจะเรียนต่อในเร็ววันนี้แน่ๆ

อัพเดท !! พอดีเราเห็นว่ามีคนเข้ามาอ่าน Blog นี้ค่อนข้างเยอะ เลยอยากจะขอชวนกันไปอ่านผลลัพท์ของความสำเร็จต่อใน สอบติด ป.โท แล้วนะ กับ ในที่สุดก็ได้ทุนกับเขาด้วยล่ะ กันครับ