ไดอารี่

2020 Year in Review

และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของปี 2020 แล้ว

สำหรับเราปีนี้ค่อนข้างเป็นปีที่หนักพอสมควรในหลาย ๆ เรื่อง เป้าหมายของปี 2020 ที่เราตั้งเอาไว้ก็มีหลายข้อเลยที่เราไม่สามารถบรรลุได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้

รีวิวปี 2020 นี้เริ่มจากรีวิวเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ตั้งแต่ต้นปีก่อนดีกว่า

ในบรรดา 4 เป้าหลัก ๆ ที่เราตั้งเอาไว้ดูเหมือนว่าจะสำเร็จไปได้แค่เป้าหมายเดียวเสียด้วยสิ เดี๋ยวเราจะลองมารีวิวกันทีละอันเลยดีกว่า

เป้าหมายที่ 1 ของปี 2020 – ออกไปเที่ยวประเทศอื่น

อันนี้ล้มเหลวอย่างแรง (ฮา)

คือจริงๆปีนี้เราวางแผนว่าจะไปญี่ปุ่นช่วงเดือนกุมภาเพื่อไปงานจับมือ กับงาน TIF2020 ตอนช่วงตุลา ในระหว่างนั้นว่าจะหาเวลาสักช่วงมิถุนาเพื่อไปเที่ยวไต้หวัน หรือไม่ก็ไปเที่ยวประเทศลาวดู

แต่ดันมาเจอพิษ COVID-19 ตั้งแต่ต้นปีลามยันปลายปี และตอนนี้เองก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าทุกอย่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติเอาตอนไหน สุดท้ายก็เลยล่มไม่เป็นท่า

แผนการเที่ยวที่เราวางเอาไว้ก็พังหมดทุกอย่าง

แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศแต่ปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่เราเที่ยวในประเทศเยอะมากปีหนึ่งเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ทริปพัทยาช่วงเมษา ทริปเชียงใหม่ ทริปเกาะสมุย และยังมีวคูปองพักโรงแรมในกรุงเทพ 1 คืน ที่แถมมากับทริปเกาะสมุยอีก

สำหรับเราแล้วปีนี้เป็นปีที่เราเที่ยวในไทยบ่อยที่สุดเท่าที่เราจำได้เลย

เป้าหมายที่ 2 ของปี 2020 – สอบ TOEFL

จะว่าไงดี ถึงแม้ปีนี้เราจะไม่ได้สอบ TOEFL เลยแต่ปีนี้เราสอบ IELTS ได้ overall band 6.0 แล้วนะ

หรือก็คือเราผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำในการสมัครต่อป.โทที่ญี่ปุ่นแล้วแหละ เพราะฉะนั้นก็น่าจะเรียกได้ว่าเราทำเป้าหมายนี้ได้ลุล่วงล่ะนะ เพราะความตั้งใจแรกที่เราตั้งเป้านี้ขึ้นมาก็เพื่อจะทำคะแนนให้มีสิทธิ์ยื่นสมัครเรียนต่อป.โท

และเป้าหมายนี้ก็เป็นเป้าหมายแรกและเป้าหมายเดียวของปี 2020 ที่เราบรรลุได้ตามเป้า (ฮา)

เป้าหมายที่ 3 ของปี 2020 – สอบเอาใบ certificates

จริง ๆ ตอนแรกเราก็ตั้งใจว่าจะสอบเอา Certified Associate in Project Management (CAPM)®  มานะ

เอาจริงๆตอนนั้นคิดว่ายังไงก็ได้แหละมีเวลาในการเตรียมตัวอะไรค่อนข้างนานพอสมควร แต่พอเอาเข้าจริง ๆ แล้วเวลามันหายากอย่างมาก

ยิ่งช่วง work from home นี่บางช่วงแทบจะเรียกได้ว่าทำงานกัน 24/7 เลยทีเดียว

สุดท้ายเราก็เลยไม่ได้สอบไม่ได้เรียนตามเป้าที่ตั้งไว้ ค่อนข้างเสียดายอยู่เหมือนกัน อีกส่วนหนึ่งก็คงเพราะความไร้ระเบียบวินัยของเราเองด้วยแหละ

ก็แบบทำงานมาเหนื่อย ๆ กลับถึงบ้านกว่าจะกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว บางวันก็สี่ทุ่มกว่า ๆ ทั้งร่างกายทั้งสมองมันต้องการพักผ่อนมากกว่าที่จะมาเรียนรู้อะไรพวกนี้สุดท้ายเราเลยเลือกที่จะพัก แล้วพอเป็นแบบนี้เรื่อย ๆ เข้ามันก็ลงท้ายด้วยการที่ไม่ได้เรียนไม่ได้ทบทวนอีกเลย

เป้าหมายที่ 4 ของปี 2020 – ออกกำลังกายให้มากขึ้น

อันนี้ก็เป็นอีก 1 เป้าหมายที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า

ตอนช่วงเดือนแรก ๆ ของปีเราก็ออกกำลังกายสม่ำเสมออยู่หรอก แต่เมื่อ COVID-19 ระบาดหนักและเริ่มมีมาตรการ work from home ขึ้นมาเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายอีกเลย สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะฟิตเนสที่ออฟฟิศเราปิดให้บริการด้วยแหละก็เลยไม่รู้ว่าจะไปวิ่งที่ไหนดี

พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้นหน่อย ฟิตเนสกลับมาเปิดเหมือนเดิมความที่เราหย่อนยานจนเคยชินก็ทำให้เรามีข้ออ้างร้อยแปดในการผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ และก็ลงเอยด้วยการไม่ได้ออกกำลังกายในที่สุด (ฮา)

รีวิวปี 2020

เอาล่ะ หลังจาก recap เป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้เมื่อต้นปีแล้วเราจะเริ่มรีวิวปี 2020 ที่ผ่านมาแบบจริง ๆ จัง ๆ ละ

จริง ๆ ปีนี้ไม่ค่อยมีอีเว้นอะไรใหญ่ ๆ ให้เล่าเท่าไหร่ เอาตรง ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ แหละนะ อย่างบล็อกนี้เองก็เพิ่งเริ่มทำเมื่อต้นปี แล้วก็เพิ่งจะจดโดเมนกับเช่า server แบบจริง ๆ จัง ๆ กันเมื่อปลายปี

นอกจากบล็อกเองเราก็ได้ซื้อ GO PRO มาตั้งใจว่าจะเอามาถ่าย vlog ตัวเอง ซึ่งก็ถ่ายไปหลายครั้งแล้วแหละ แต่ยังไม่มีเวลาตัดต่อออกมากเป็นคลิปซักที (ฮา)

นอกจากเรื่อง Blog กับ vlog แล้วก็มี podcast นี่แหละที่เราเริ่มลองทำดูในปีนี้ ตอนนี้ใช้ zoom H1N ในการอัดอยู่ ออกมาทั้งหมด 4 Episode แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่า EP. 5 จะออกมาเมื่อไหร่ (ฮา)

เรียกว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นหรือเป้นปีแห่งการริเริ่มลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็ว่าได้

ตัดภาพมาที่ชีวิตติ่งกันบ้าง

ปีนี้ถือว่าเกิดอะไรขึ้นหลายอย่างเลยเริ่มจากเดือนกุมภาที่อดไปกุมมือ เอ๊ะ !?

กุมภาที่ COVID-19 เริ่มระบาดหนักร้ายแรงจนเราอดไปญี่ปุ่น จริง ๆ ทริปนี้คือวางแผนว่าจะไปงานจับมือของฮินาตะกับ STU แล้วก็มีคอนของ STU ที่ริโกะจะขึ้นครั้งแรกที่โตเกียวที่เราซื้อบัตรไว้แล้ว รวมถึงไปคาเฟ่ทัวร์ของฮาราดะที่ฮิโรชิม่าด้วย เรียกว่าพออดไปก็พลาดหลายอย่างเลย ตอนนั้นสารภาพว่าจิตตกหนักมาก เพราะค่าบัตรจับมือค่า ตั๋วคอน ตั๋วไลฟ์ ตั๋วเครื่องบิน ไปจนถึงค่าที่พัก รวม ๆ แล้วก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ การที่อยู่ดี ๆ มาบอกให้ทิ้งมันไปเลยก็จะทำใจลำบากนิดนึง แต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกก็ต้องกัดฟันทนกันต่อไปล่ะนะ

แล้วก็ปีนี้เป็นปีที่เราเริ่มกลับมาเหินห่างฮินาตะอีกรอบก็ตั้งแต่จิตตกเพราะอดไปงานจับมือครั้งนั้นเป็นเหตุนั่นแหละเราเลยเริ่มที่จะตามฮินาตะแบบห่าง ๆ ประกอบกับที่เคงคิวซากามิจิเริ่มแยกไปอยู่ตามวงต่าง ๆ ทำให้เคยากิมีรุ่นสอง (ใหม่) เพิ่มขึ้นมาเราเลยเริ่มกลับมาตามเคยากิอีกครั้งแบบจริง ๆ จัง ๆ เพราะหวังว่าจะกลับมาเริ่มต้นใหม่กับเด็กรุ่นสอง (ใหม่) และเราก็ไม่ผิดหวังเพราะเราได้เจอกับน้องเรย์ (โอโซโนะ เรย์) กับมาริโนะ (โควซากะ มาริโนะ) เด็กรุ่นสองที่เรากำลังสนใจและสนับสนุนอยู่ซึ่งคาดว่าน่าจะกลายมาเป็นโอชิในอนาคต (ฮา)

แต่ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดี ๆ เคยากิจะรีแบรนดิ้งใหม่หมดเลย ในคอน LIVE ONLINE, BUT WITH YOU ของเคยากิคุณสุไกได้ประกาศว่าจะทำการยุบเคยากิซากะลงแล้วเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่ Sakurazaka46 เรียกว่าเหมือนการเกิดใหม่ก็ว่าได้ เอาจริง ๆ เราก็พอจะเห็นสัญญาณอะไรหลาย ๆ อย่างแหละว่าวงมันกำลังมีปัญหาแต่เราก็ไม่คิดว่าเขาจะแก้ปัญหากันด้วยวิธีนี้ คือมันก็ไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่แย่หรอก เพียงแต่เป็นวิธีที่เราคาดไม่ถึงก็เท่านั้น

ซึ่งหลังจากที่มีการรีแบรนด์ไปเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาดูเหมือนกระแสตอบรับก็ยังคงโอเคอยู่ในฝั่งแฟน ๆ ชาวไทยและชาวญี่ปุ่น แถมยอดขายแผ่น debut single Nobody’s Fault เองก็ไม่ได้ถือว่าแย่

ส่วนบัตรจับมือของฮินาตะที่เราลงเมื่อเดือนกุมภาแล้วไม่ได้ไปทาง official ก็มีเปิดให้แลกเป็นบัตรออนไลน์มีตได้ตอนเดือนตุลาที่ผ่านมา ก็ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีสำหรับเรา งานนั้นถือเป็นงานไลฟ์ออนไลน์ครั้งแรกสำหรับเราเลยก็ว่าได้

ซึ่งพอเราได้ประสพการณ์จากมีตออนไลน์จากของฮินาตะแล้วความประหม่าก็ลดลงไปมากตอนที่เราเข้ามีตออนไลน์ของซากุระซากะ ซึ่งเราเองก็มีทำคู่มือการใช้งาน forTUNE meet คร่าว ๆ เอาไว้เผื่อใครที่ยังไม่เคยใช้จะได้ไม่งงมากตอนใช้งานจริงอยู่ คิดว่าตอนของมีตซากุระซากะที่ผ่านมาก็น่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

แต่สุดท้ายพอถึงวันออนไลน์มีตจริง ๆ ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องที่บุ 5 กับ 6 ล่มตั้งแต่อีเว้นวันแรก และมีการสกรีนไม่ให้ชาวต่างชาติที่ไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่นเข้าบุตอนบุ 6 ของวันที่สอง (กรณีของวันที่สองเราไม่ได้ลงบุ 6 ไว้ อันนี้จึงเป็นข้อมูลที่เราได้รับจากคนในทล.และที่ทวิตกันในแทคของออนไลน์มีต โปรดใจวิจรณญาณในการเสพข่าว)

ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าวันที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 มกราคมปีหน้าจะยังมีการสกรีนไกจินอยู่หรือเปล่า แล้วสกรีนเฉพาะบุ 6 หรือจะเริ่มตั้งแต่บุแรกเลยก็ไม่มีใครรู้ เรียกได้ว่าคงต้องไปเสี่ยงดวงเอาดาบหน้า

นอกจากงานมีตออนไลน์แล้ว ปีนี้เราได้ลองส่งจดหมายหาเมมจากไทยเป็นครั้งแรกล่ะ ตอนสมัยเราดามโยเน่ก็ยังไม่เคยส่งจดหมายหรือดอกไม้ให้เลยเพราะตอนนั้นเรายังไม่มีรายได้เลยต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดหน่อย ตอนนี้พอเริ่มมีหน้าที่การงานมั่นคงแล้วมันก็เลยพอจะทำอะไรพวกนี้ด้วยได้

เอาจริง ๆ เรื่องส่งจดหมายนี่ก็แอบใช้เวลานานเหมือนกันนะกว่าจดหมายจะไปถึงญี่ปุ่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ COVID-19 ด้วยหรือเปล่ามันเลยทำให้ล่าช้าออกไปอีก

นอกจากตระกูล 46 กับ 48 แล้วปีนี้เป็นปีที่เราได้รู้จักศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงหลายคนมาก และก็มีหลายคนที่เพลงเค้าค่อนข้างถูกจริตเราเลยแหละ ไม่ว่าจะเป็น Milet ซังที่เรารู้จักจากช่อง The first take หรือ Karin ที่เราบังเอิญสุ่มเพลงไปเจอใน Spotify รวมไปถึง The coinslocker ที่เรากลับมาตามผลงานอีกครั้งเมื่อตอนต้นปีและอีกหลาย ๆ คนที่เราไม่ได้ยกมาเขียนในครั้งนี้ เพราะเกรงว่าถ้าให้เขียนทั้งหมดทุกคนคง บล็อกนี้คงจะยาวมากแน่ ๆ (ฮา)

เอาล่ะปีนี้ก็คงมีประมาณเท่านี้แหละ แอบยาวเหมือนกันแฮะ

จะมีใครอ่านมาถึงตรงนี้มั้ยนะ (ฮา)

ยังไงปีนี้ก็ขอขอบคุณทุกคนมากนะ ปีหน้าเราก็ขอฝากตัวด้วยเช่นเคย

สวัสดีปีใหม่ครับ