และแล้วก็ผ่านพ้นปี 2019 มาแล้ววว
จริงๆปี 2019 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงสำหรับเราเลยนะเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรื่องงาน และเรื่องอื่นๆ
เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะขอเขียนเป็นพาร์ทๆละกัน
การงาน
ย้ายงานล่ะ!! ย้ายงาน!!
ในที่สุดเราก็ได้ย้ายงานละนะ (^^)
จริงๆคือเริ่มคิดเรื่องย้ายงานตั้งแต่ปลายปีก่อนตอนที่บังเอิญเจอกับอากิซังที่หน้าออฟฟิศ ตอนนั้นอากิซังเค้ามาตรวจดูความเรียบร้อยเพราะจะย้ายออฟฟิศมาอยู่ตึกเดียวกับเรา ตอนนั้นก็เลยได้คุยอะไรกันหลายๆเรื่อง เลยทำให้เราเริ่มคิดจะย้ายงาน
หลังจากที่สอบ LINE JAPAN ไม่ผ่าน 😭 ในที่สุดตอนนี้ก็ย้ายงานละ จริงๆก็คือย้ายมาราวๆ 9 เดือนได้แล้วมั้ง ซึ่งเราก็โอเคกับที่นี่อยู่นะ อยู่แล้วค่อนข้างแฮปปี้
ที่นี่เราได้ลองทำอะไรหลายอย่างที่เคยฝันแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ หรือเคยทำแบบผิวเผินไม่เคยลงทำจริงๆเต็มตัว
อย่างเรื่องการจัดการโปรเจกต์ การเจรจากับบริษัทคู่ค้า เทคโนโลยี blockchain ฯลฯ
ถือเป็นการเปิดโลกสำหรับเราเลย ถึงแม้ว่าแม่งจะโคตรเหนื่อยเลยก็เถอะ _:(´ཀ`」 ∠):
แต่พี่ๆในที่ทำงานใหม่เค้าก็พยานามคอยช่วยเราอยู่เสมอนะ ไม่เข้าใจตรงไหนอะไรยังไงก็ถามได้ตลอด ถือว่ายังคงพอเอาตัวรอดได้แหละมั้ง ?
ทว่า !!เราก็ยังไม่ล้มเลิกเป้าหมายเรื่องเรียนต่อหรอกนะ !!
ดูงานต่างประเทศ
ʕ•̫͡•ʕ•̫͡•ʔ•̫͡•ʔ•̫͡•ʕ•̫͡•ʔ•̫͡•ʕ•̫͡•ʕ•̫͡•ʔ•̫͡•ʔ•̫͡•ʕ•̫͡•ʔ•̫͡•ʔ
คือเราได้ไปดูงานที่สิงคโปร์มาด้วยกับที่ทำงานใหม่แหละละคือ museum ที่นั่นดีมากกกก
ทั้งในเรื่องของ themes และการจัดวาง Story ที่นำเสนอก็ดี
สารภาพว่าเมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้เข้าพวก museum เท่าไหร่ แต่เพราะแฟนเก่าเราชอบพวกนี้เลยทำให้เราติดนิสัยชอบอะไรทำนองนี้ไปด้วย
พอรู้ตัวอีกทีมันก็เลิกไม่ได้แล้ว (ฮา)
แต่คือเราไม่ได้สักแต่ดูไง คือเราจะพยายามทำความเข้าใจและดื่มด่ำกับ story ที่เค้าหยิบมานำเสนอ
เราเลยเป็นพวกที่เวลาไปเดิน museum แล้วจะเดินค่อนข้างช้า
เพราะหยุดดูมันทุกอย่าง เก็บทุกรายละเอียดแล้วเอามาปะตอดปะต่อเรื่องราวเอา
ถ้ามีโอกาสเราก็อยากไปดูอะไรพวกนี้อีกนะ คือชอบมาก ละเค้านำเสนอเรื่องได้ดีมากเลยด้วย
การเรียน
อันนี้ไม่มีความคืบหน้าซักนิดโคตรเศร้า (._.)
แต่อย่างน้อยเราก็มีเป้าหมายเรื่องคณะกับมหาลัยแล้วนะ ไม่อารมณ์แบบไม่รู้จะเรียนอะไรเหมือนปีก่อนๆ อันนี้ถือเป็นความคืบหน้ามั้ยนะ ?
ถึงแม้ว่าจะทำคะแนนยังไม่ถึงก็เถอะ (´°̥̥̥̥̥̥̥̥ω°̥̥̥̥̥̥̥̥`)
งานอดิเรก
ท็อปปิคนี้ท่าจะยาว 555
ปีนี้เป็นอีกปีนะที่เราได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่เคยทำแล้วก็ได้บอกลาบทบาทหน้าที่บางอย่างที่เราทำมาตลอด
TIF2019
อันนี้คือเป็นทริปที่กระทันหันปัจจุบันทันด่วนมาก จากที่ตอนแรกคือแพลนว่าจะไปแล้วมันโดนสะกัดดาวรุ่งเพราะเราย้ายงานช่วงต้นปีเลยหมดสิทธิ์ลา แต่อยู่ดีๆก็ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าให้ลางานได้ งั้นก็จัดสิครับรออะไร ٩( ‘ω’ )و
ปีนี้เป็นปีแรกที่เราได้ไป TIF(Tokyo Idol Festival) หลังจากนี้จะเรียกย่อๆว่า tif
ซึ่งเนื่องจากทุกอย่างมันกระทันหันทั้งเรื่องตั๋วเครื่องบินทั้งเรื่องโรงแรมอะไรหลายๆอย่างมันเลยตะกุกตะกักไปหมด แต่ก็นับว่าโชคดีที่พวกลุงๆเค้าไม่ด่าเรา (ฮา) แถมยังช่วยจัดการเรื่องโรงแรมด้วย
สารภาพว่าตอนแรกที่ได้รับอนุญาตให้ลางานก็แอบลังเลอยู่เหมือนกันนะว่าจะไป tif ดีหรือไปงานจับมือของฮินาตะดี แต่พอไปเช็คบัตรจับมือก็พบว่าเหลือแค่ของมาโอะคนเดียวคนอื่นขายหมดแล้ว เพราะงั้นถ้าไปจับมือจะได้เจอแค่มาโอะคนเดียวซึ่งโคตรจะไม่คุ้ม เลยตัดสินใจไป tif แทน
ซึ่งนอกจาก tif แล้วเราเลยถือโอกาสไปอีเว้นอื่นๆด้วยเลย อย่าง Zambi the room อันนี้สาภาพเลยว่าตอนซื้อตั๋วคือเรานึกว่ามันจะเป็นบุไต(舞台劇 – stage play) แต่เอาเข้าจริงแม่งคือเกม escape room 😂 แต่ก็โอเคสนุกดี
สารภาพอีกว่าตอนที่รู้ว่ามันคือเกม escape room นี่แบบกังวลมากนะ เพราะสกิลภาษาญี่ปุ่นเราไม่ได้ดีขนาดนั้นละเกมแนว escape room คือมันต้องใช้การ communication สูงมากเพื่อให้เราหนีออกไปได้ ซึ่งสุดท้ายเราก็สามารถรอดมาได้เพราะอันนี้มันไม่ได้จำเป็นต้องใช้สกิลภาษาขนาดนั้น /ปรบมือ👏
โอเคเวิ่นเว้อนอกเรื่องนานละ วกกลับมาเรื่อง tif กันดีกว่า
มา tif รอบนี้คือดีงามมาก เหมือนเปิดโลกจริงๆนะ เมื่อก่อนคือเราไม่ได้ตามไอดอลวงอื่นนอกจากพวกตระกูลตัวเลขแบบจริงจังมากนักถึงแม้จะมีหลายวงที่เราชอบเพลงมาก เพราะเราไม่ค่อยมีช่องทางในการตามดูไลฟ์หรือ performance เท่าไหร่แต่ tif นี้คือเป็นการเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงพวกเค้าได้มากขึ้นรวมถึงได้เห็นอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น
ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่พวกแฟนเพลงวงตัวเลขวงนึงขอไม่เอายชื่อวงแต่สมมติว่าวงเนินฟ้า ตอนดูไลฟ์นี่แม่งโคตรน่ากลัวอะ คือแบบทั้งดันทั้งกระแทกจนรั้วพังล้มแล้วน้องผู้หญิงที่อยู่หน้าเราคือน็อคไปเลยนี่ยังที่ดีพอจะดันกันเอาไว้ทันให้บอร์น(ชื่อเรียกของการ์ดในงาน) ช่วยแบกน้องออกไปข้างนอกไม่งั้นน้องคงหายไปท่ามกลางดงตีนที่คุ้มคลั่งแน่ๆ
หลังจากนั้นบอร์นคือแบบยืนเรียงกันเป็นรั้วหน้าเราเลย มีช่วงนึงที่เราเซจนเกือบล้มบอร์นข้างหน้าเราคือเร็วมาก แบบคว้าใหล่เราแล้วดึงขึ้นมาเลย ไม่งั้นเราก็คงหายไปท่ามกลางดงตีนอีกคน _φ(・_・
เป็นประสพการณ์ที่น่ากลัวสุดๆไปเลยพี่ผู้ชายที่ยืนข้างๆเราก็ช่วยๆกันดูแบบถ้าใครล้มอีกคนจะช่วยคว้าเอาไว้ไม่ให้หายไปกับดงตีนแล้วให้บอร์นช่วยดึงขึ้นมา
แต่ก็ใช่ว่า tif รอบนี้จะมีแต่ประสบการณ์แย่ๆนะ เรื่องดีๆก็มี
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการที่เราได้เจอกับฮาราดะจัง ♡
น้องเป็นเด็กที่มากไปด้วยความสามารถและพรสวรรค์ควรค่าแก่การสนับสนุน (^ν^)
คือตั้งแต่โยเน่(米谷奈々未 – Yonetani Nanami) แกรต(จบการศึกษา) ไปก็ไม่มีเมมคนไหนที่เรากล้าพูดอย่างเต็มปากว่านี่คือโอชิเมมอะ แต่ฮาราดะจังอาจจะเป็นคนแรกที่เรากล้าเรียกว่าโอชิเมมหลังจากโยเน่แกรตไปก็ได้
Note - โอชิเมม(推しメン) เป็นการประกอบคำโดย 推 มาจากคำว่า 推薦(suisen - การแนะนำ) และ メン จาก メンバー(member) คำว่าโอชิเมมเลยหมายถึงเมมเบอร์ที่เราสนับสนุนหรืออยากบอกต่อแนะนำให้กับคนอื่น
เรื่องฮาราดะจังเราไม่ขอลงละเอียดเท่าไหร่นะเพราะน่าจะเคยเล่าให้หลายคนฟังละ (จริงๆคือกลัวบล็อกนี้ยาวเกินความจำเป็น)
เพราะงั้นขอข้าม ละก็ช่วยหยุดเรียกเราว่าเป็นคุณพ่อของฮาราดะที /กราบ 🙇🏻♂️
จริงๆ tif เองก็มีอีกหลายเรื่องที่เราอยากเล่านะ
เดี๋ยวไว้อาจจะหาโอกาสว่างๆเขียนแยกออกมาเป็นบล็อกอีกทีละกัน
นั่งร้องไห้บนรถไฟ
อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ครั้งแรกของเรา (ฮา)
อันนี้คือเกิดตอนกำลังนั่งรถไฟไปขึ้นเครื่องกลับไทยพอดี
หลายคนที่ตามทวิตเราคงจะรู้แล้วว่าปีนี้เนรุ(長濱ねる – Nagahama Neru) กับเมมิ(柿崎芽実 – Kakizaki Memi) แกรตไป
คือมันก็แอบใจหายนะ คือเด็กที่เราเห็นกันมาตลอด 3 ปีตั้งแต่สมัยที่เข้าวงมาใหม่ๆจนถึงตอนนี้ มันค่อนข้างผูกพันเลยแหละ
แล้วอยู่ดีๆจะไม่ได้เจออีกแล้วไม่ได้เห็นเค้ายิ้ม ไม่ได้เห็นเค้าหัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่บนเวทีกับเพื่อนๆแล้ว
มันก็เศร้าเหมือนกันนะ
จำได้ว่าตอนนั้นคือเรากำลังดูเทปรายการเคยาคาเคกับฮินะไอที่เป็นเทปสุดท้ายอำลาทั้งสองคนแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง
เออ นั่นแหละ มันเป็นอารมณ์ทั้งเศร้าทั้งดีใจ ทั้งสุขทั้งทุกข์
ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงอารมณ์ประมาณลูกสาวสุดที่รักกำลังออกเรือนมั้ง (ฮา)
หลังจากนี้ก็คงไม่ได้เห็นน้องเค้าอีกแล้วเพราทั้งสองคนคือออกจากวงการบันเทิงไปเลย เหมือนโยเน่
แต่เมมินี่ยังพอจะมีช่องทางที่จะได้ข้อมูลข่าวสารบ้าง เห็นว่าช่วงนี้กำลังช่วยงานศิลปะของจุนอิจิซังอยู่ (柿崎順一 – Kakizaki Junichi พ่อของเมมิ เป็นศิลปิน) ส่วนเนรุนี่คงหายไปเลยจริงๆ (._.)
เพจเคยากิ
อันนี้แอบใจหายเล็กๆนะเพราะเป็นเพจที่ทำมาค่อนข้างนานพอสมควร น่าจะประมาณ 2 ปีได้
จำได้ว่าตอนนั้นสาเหตุที่ตัดสินใจทำเพจกับร็อตคุงเพราะเริ่มมีคนสนใจในวงมากขึ้นและเริ่มมีข้อมูลผิดๆถูกกระจายออกมาเป็นวงกว้างเลยตัดสินใจที่จะทำเพจเพื่อควบคุมข้อมูลข่าวสารกับเป็นแหล่งอ้างอิงให้กับคนที่คิดจะติดตามข่าวสารของวง
โดยคอนเซปตอนนั้นคือถูกต้องครบถ้วน อะไรที่ไม่มีหลักฐานแน่นอน เป็นแค่ข่าวโคมลอยหรือไม่ได้มาจากช่องทางออฟฟิศเชียลของรายการ สำนักข่าวหรือของวงเราจะไม่แปลกัน
แล้วก็พยายามเขียนคอนเทนท์ให้คนที่เพิ่งมาติดตามใหม่ได้เข้าใจถึงพื้นเพของวง เมมเบอร์แต่ละคน รวมถึงช่องทางติดตามต่างๆ
แต่ก็นั่นแหละพอถึงจุดนึงที่มีภาระเพิ่มขึ้นมีหน้าที่การงานมากขึ้นมันก็มีเวลามาทำน้อยลงคนสองคนจะให้แบกเพจต่อไปจนตลอดรอดฝั่งคงยาก
สุดท้ายเลยตัดสินใจยุติบทบาทในปี 2019 ที่ผ่านมาก
การส่งดอกไม้
อันนี้คือเป็นประสพการณ์ครั้งแรกของเราเหมือนกัน ( ^ω^ )
ตั้งแต่เริ่มตามไอดอลมานี่เป็นครั้งแรกที่ส่งดอกไม้ไปให้เด็กๆเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ
เอาจริงๆมันก็แอบวุ่นวายเหมือนกันนะ
เพราะเราต้องติดต่อร้านดอกไม้ ติดต่อดีไซเนอร์เองคุยสโคปงานว่าเราอยากได้แบบไหนแล้วจะส่งไปให้เนื่องในโอกาสอะไร ผู้รับเป็นคนยังไงอุปนิสัยยังไงเพื่อให้ดีไซเนอร์จัดการดีไซน์ดอกไม้ให้เข้ากับผู้รับและวาระของงานนั้นๆ ซึ่งผลงานก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างมากกกกก
แนบรูปปลากรอบหนูมิคุกำลังถือช่อดอกไม้ที่เราส่งไปให้
การกลับมาตามไอดอลอีกครั้ง
เอาล่ะ ในที่สุดก็มาถึงเรื่องนี้
จริงๆเรื่องนี้คือไม่ได้มีอะไรมากเลยนะ แค่แบบช่วงครึ่งหลังของปี 2018 กับต้นปี 2019 เรามีปัญหาบางอย่างที่ต้องจัดการกับความรู้สีกตัวเองเลยกลายเป็นว่าเราเก็บตัว ละเลิกตามไอดอลไปร่วมปีเศษๆ
ไอ้ที่สัญญาว่าจะเขียนจดหมายไปหาทุกสัปดาห์ก็กลายเป็นไม่ได้ส่งมาร่วมปี 😂
พอกลับมาตามอีกครั้งมันก็เลยแอบกลัวนิดๆว่าน้องมันจะยังจำได้รึเปล่า ถ้าจำได้น้องมันจะรู้สึกยังไง
ถึงจะทุลักทุเลบ้างแต่ก็ตามเก็บข่าวสารช่วงที่หายหน้าหายตาไปจนเกือบหมด(คิดว่านะ)?
หมดแล้ว (=´∀`)人(´∀`=)
คิดว่าอีเว้นหลักๆในปี 2019 เราหยิบมารีวิวหมดแล้วนะ
พอมาดูจริงๆบล็อกนี้ก็ยาวพอควรเลยแฮะ จะมีใครทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้มั้ยนะ 😂
หรือจริงๆเราควรตั้งคำถามใหม่ว่ามีคนเข้ามาอ่านบล็อกนี้รึยังนะดี _φ( ̄ー ̄ )
เอาเป็นว่าสำหรับทุกท่านที่ทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ก็ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
แล้วพบกันใหม่ในบล็อกเป้าหมายปี 2020 !!
ขอปิดท้ายด้วยรูปฮาราดะจังตอนงาน TIF ละกัน